กลายเป็นอีกเรื่องฮือฮาสำหรับสโมสรอย่าง ไบร์ทตัน เพราะล่าสุดกำลังจะได้โค้ชหนุ่มไฟแรงผู้ที่จะมารับช่วงต่อจาก โรแบร์โต้ เด แซรfun88 บาคาร า์บี้ นั่นก็คือ ฟาเบียน เฮอร์เซเลอร์ และที่เซอร์ไพรส์ก็คือตอนนี้อายุแค่ 31 ปีเท่านั้น แน่นอนว่านี่จะทำให้เขากลายเป็นผู้จัดการทีมที่อายุน้อยที่สุดบนหน้าประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก

เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วเราลองไปทำความรู้จักกับผู้ชายคนนี้กันหน่อยว่าเขาเป็นใครมาจากไหน ? และมีเรื่องราวอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง ?

[ โค้ชหนุ่มไฟแรง ]

ถึงแม้จะอายุแค่เพียง 31 ปีแต่ก็ประสบความสำเร็จมาหมาดๆ ด้วยการพาสโมสรอย่าง ซังต์ เพาลี คว้าแชมป์ ลีกา 2 เยอรมัน พร้อมกับได้โอกาสเลื่อนชั้นกลับสู่เวที บุนเดสลีกา เป็นครั้งแรกในรอบ 13 ปี

ประสบการณ์ด้านโค้ชครั้งแรกของ เฮอร์เซเลอร์ ก็คือกับทีมสมัครเล่นเล็กๆ อย่าง FC Pipinsried ที่ควบทั้งตำแหน่ง เพลเยอร์ แอนด์ โค้ช ตลอดช่วงปี 2016-20

ปี 2018 เขาได้โอกาสเข้ามาเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมที่ ทีมชาติ ยูเยอรมัน ยู-18 และ ยู-20 ก่อนจะไปเป็นผู้ช่วยของ ติโม ชุลซ์ ที่ ซังต์ เพาลี เมื่อปี 2020 ก่อนที่ช่วงปลายปี 2022 เฮอร์เซเลอร์ จะได้ก้าวขึ้นมาเป็นเฮดโค้ชแบบเต็มตัวในอายุแค่เพียง 29 ปีเท่านั้น

และจากทีมที่จมอยู่โซนตกชั้นในวันนั้นตัดภาพกลับมาที่ตอนนี้ ฟาเบียน เฮอร์เซเลอร์ คือผู้ที่ยกระดับและพา ซังต์ เพาลี กลับมาโลดแล่นบนเวที บุนเดสลีกา อีกครั้ง

[ นิว นาเกลส์มันน์ ]

ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมของ ฟาเบียน เฮอร์เซเลอร์ (คุม 38 นัด ชนะ 23 เสมอ 9 แพ้ 6 เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา) นั่นทำให้สื่อและคนในเยอรมันต่างยกย่องให้เขาเป็น "นิว จูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ " ด้วยความที่แจ้งเกิดและผลงานเข้าตาตั้งแต่อายุยังน้อย แต่เจ้าตัวก็ปฏิเสธที่จะรับการขนานนามแบบนั้น

"ผมจำเป็นต้องถ่อมตัว ผมต้องเดินไปในทิศทางของตัวเอง ยังมีอีกหลายๆ สิ่งที่ต้องเรียนรู้ ไม่ใช่แค่เรื่องในสนามเท่านั้นแต่ยังเป็นเรื่องการปฏิบัติต่อสื่อและผู้คนที่อาจมีผลกระทบในโลกออนไลน์อีกด้วย"

"มันสำคัญมากๆ ที่ผมต้องทุกอย่างด้วยตัวของตัวเอง ดังนั้นผมไม่สามารถเป็นได้เหมือนกับ จูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ ผมต้องเป็น ฟาเบียน เฮออร์เซเลอร์ ในแบบของผมเอง แต่ถ้าผมประสบความสำเร็จได้แบบเขาผมก็คงแฮปปี้มากๆ "

[ รากฐานคนอเมริกัน ]

ฟาเบียน เฮอร์เซเลอร์ เกิดที่ ฮุสตัน ใน สหรัฐอเมริกา แต่ก็ไม่ได้มีเชื้อสายอเมริกัน เพราะคุณพ่อเป็นคนสวิส ส่วนคุณแม่เป็นคนเยอรมัน แต่ ณ ตอนนั้นทั้งพ่อและแม่ต่างก็ไปทำงานชั่วคราวที่นั่นก่อนจะเก็บข้าวของย้ายกลับมายุโรป

เส้นทางอาชีพค้าแข้งของ เฮอร์เซเลอร์ อาจไม่ได้โดดเด่นนัก แทบจะเป็นนักเตะโนเนมเลยด้วยซ้ำ เพราะเขาเล่นให้แค่ทีมสำรองของ บาเยิร์น มิวนิค, ฮอฟเฟ่นไฮม์, 1860 มิวนิค ก่อนจะมาเป็นนักเตะพ่วงงานโค้ชที่ FC Pipinsried

แต่ถึงกระนั้น เฮอร์เซเลอร์ ก็ยังคิดถึงชีวิตที่ สหรัฐอเมริกา อยู่เสมอ โดยกล่าวเอาไว้ว่า "ผมคิดว่าผมผูกพันกับที่ สหรัฐอเมริกา เพราะนี่คือที่ๆ ผมเกิดมา ผมมีทัศนคติเหมอืนคนอเมริกัน คาแร็คเตอร์ของผมเป็นคนใจกว้าง เปิดใจให้กับทุกๆ สิ่ง และพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ฝันเป็นจริง และในวันหยุดผมก็จะเดินทางกลับไปที่นั่นเสมอ"

[ อิทธิพลของ บาเยิร์น ]

ซังต์ เพาลี เป็นสโมสรที่แต่างจาก บาเยิร์น มิวนิค โดยสิ้นเชิง แน่นอนว่า "เสือใต้" คือทีมครองอำนาจในวงการลูกหนังของเยอรมัน แต่ที่ ซังต์ เพาลี นั้นจะแตกต่างออกไป ความเคลื่อนไหวของสโมสร, วัตนธรรมต่างๆ ตลอดจนเรื่องความล้มเหลวหรือความสำเร็จไม่ใช่สิ่งที่ถูกกำหนดในสนามและไม่ได้อยู่ในความสนใจของคนหมู่มาก

ฟาเบียน เฮอร์เซเลอร์ ได้รับอิทธิพลมาจากสมัยเป็นนักเตะของ บาเยิร์น มิวนิค ชุดสำรอง ได้เรียนรู้หลายๆ สิ่งทั้งรูปแบบการเล่น ตัวกำหนดกลยุทธ์ และวิธีการต่างๆ ทั้งในและนอกสนาม เขารู้สึกได้ถึงความกดดันระดับมหาศาลที่ต้องเล่นให้ชนะและทำผลงานให้ดี

"ช่วงที่ผมอยู่กับ บาเยิร์น มันเป็นตัวที่สร้างคาแร็คเตอร์ให้กับผม ผมอยู่ที่นั่นตอนอายุ 10-11 ขวบ การใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นคุณต้องคว้าชัยชนะให้ได้ตลอด คุณสามารถจินตนาการได้เลยตอนคุณอายุ 10-11 ขวบ และต้องไปเล่นในทัวร์นาเมนต์ที่ผู้คนมากมายเกลียดคุณ แต่สุดท้ายคุณต้องเอาชนะให้ได้เพราะคุณคือผู้เล่นของ บาเยิร์น มิวนิค"

"สิ่งที่น่าสนใจก็คือคุณไม่ต้องประสบความสำเร็จแต่คุณต้องเล่นฟุตบอลออกมาให้ดี นั่นคือการสร้างแนวทางและความคิดเกี่ยวกับรูปแบบการเล่น"

[ การรับมือกับผู้เล่น ]

แน่นอนว่าสิ่งที่เซอร์ไพรส์ที่สุดสำหรับ ฟาเบียน เฮอร์เซเลอร์ ก็คือเรื่องของอายุที่แค่ 31 ปีเท่านั้น เมื่อไปเทียบกับนักเตะหลายๆ คนที่ ไบร์ทตัน ยังถือว่าอ่อนกว่ามาก

อย่าง เจสัน สตีล อายุ 33 ปี, ลูอิส ดังค์ อายุ 32 ปี, โจเอล เวลท์มัน อายุ 32 ปี, ปาสกาล กรอสส์ อายุ 32 ปี, เจมส์ มิลเนอร์ อายุ 38 ปี และ แดนนี่ เวลเบ็ค อายุ 33 ปี

บางทีมันอาจเป็นปัญหาในเรื่องการรับมือกับตัวผู้เล่น เพราะด้วยอายุขนาดนี้ก็ถือว่ายังด้อยประสบการณ์ ยังไม่มีบารมีหรืออิทธิพลพอจะรับมือกับนักเตะซีเนียร์หลายๆ คน และมันก็เป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นกับ จูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ มาแล้ว

"ผมพยายามเปิดกว้างต่อผู้เล่นเสมอเพราะให้ความสำคัญกับเรื่องมิตรภาพ ผมพยายามจะแชร์ไอเดียเรื่องการปรับปรุงแก้ไขทีมว่าต้องทำอย่างไร ผมจะอยู่ในระดับเดียวกับพวกเขาเมื่อเราพูดคุยกัน ผมจะไม่ทำแบบว่า 'ผมพยายามจะเป็นผู้นำหรือมีอำนาจสูงสุด' ผมพยายามจะใช้ความคิดเพื่อโน้มน้าวพวกเขามากกว่า เพื่อให้พวกเขาเกิดความสนใจ "

"มันสำคัญที่คุณต้องใช้ความจริงใจ และเป็นคนที่พูดจริงทำจริง อย่าไปปลอมเปลือกต่อหน้าพวกเขา นั่นคือความคิดแรกของผม ส่วนอย่างที่สองคุณก็คือเรื่องของอำนาจ เพราะท้ายที่สุดแล้วคุณคือคนที่ต้องตัดสินใจ และบางทีพวกเขาอาจตระหนักว่าคุณจะเป็นคนที่ทำให้พวกเขาเจ็บปวด"

"การเป็นโค้ชมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย คุณต้องตัดสินใจในเรื่องยากๆ เสมอซึ่งในบางทีผู้เล่นบางคนก็ไม่เห็นด้วย แต่นั่นคือสิ่งที่พวกเขาต้องยอมรับ คุณต้องหาทางออกให้ดีที่สุดเพื่อทุกๆ ฝ่าย"

HaMu Dos Santos

</div

Fun88 เข้า ระบบ ได้ทันใจ ปลอดภัยชัวร์

หรือถ้าหากคุณต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมเกี่ยวกับการตั้งค่าบัญชีสมาชิกของคุณนอกเหนือจากการแก้ไขยูเซอร์เนมและ/หรือรหัสผ่าน

เจ้าหน้าที่ของเราก็ยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือและให้คำปรึกษาคุณอย่างเต็มที่ ทักหาเราได้เลยตลอด 24/7 เราพร้อมช่วยคุณ!